การแทงบอลไม่มีคำว่า 100% อยู่แล้วครับ เพราะฉะนั้นยังไงก็มีความเสี่ยงที่ต้องเจอแน่นอน เดี๋ยวในบทความนี้จะมาแยกเป็นอย่างๆเลย ไม่ว่าจะเป็น
- บอลเต็ง
- แฮนดิแคป
- สูงต่ำ
- บอลสด
- ราคาพลู
- กดแบบสกอร์คู่คี่
พวกนี้ทั้งหมดมีความเสี่ยงอะไรที่ต้องรู้บ้างก่อนจะเลือกเดิมพัน ถ้าเจอความเสี่ยงที่ว่าจะระหว่างเดิมพันจะได้รู้ว่าควรขายบิลออก หรือ ควรถือต่อไปครับ
ส่วนเว็บใครไม่มีระบบขายบิลก็อาจจะต้องรับความเสี่ยงทั้งหมดไว้นะครับ แล้วก็ทุกการเดิมพันต้องระวังไว้เลยว่า อาจจะถอนเงินไม่ได้ ถ้าเล่นกับเว็บที่ไม่มีใบอนุญาต หรือเว็บเอเย่นต์นะ
แนะนำให้เลือกเล่นกับเว็บแทงบอลถูกกฎหมายที่มีใบอนุญาตจะได้ถอนได้แบบสบายใจ และมีระบบขายบิลให้เลือกใช้นะครับ ใครขี้เกียจหา แนะนำที่ KUBET ได้เลย
- มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
- เปิดมา 19 ปี เจ้าของมีตัวตนจริง เห็นหน้าชัดเจน
- เป็นพันธมิตรกับลีกลาลีกา สเปน
- มีระบบขายบิล
- และระบบตัดบิลอัตโนมัติไม่ต้องรอหมดเวลา ได้เงินเลย
ความเสี่ยงของการแทงบอลแต่ละรูปแบบ
1.การแทงบอลเดี่ยว (Single Bet)
- ลักษณะ: การทายผลการแข่งขันฟุตบอลเพียงคู่เดียว
- ความเสี่ยง:
- เสี่ยงสูงในกรณีที่ทีมที่เลือกแพ้หรือผลออกมาไม่ตรงกับที่ทาย
- การเลือกทีมที่มีโอกาสชนะต่ำจะมีอัตราจ่ายสูง แต่ก็เสี่ยงมากขึ้น
- เหมาะสำหรับ: นักพนันที่มั่นใจในทีมที่เลือก
2.การแทงบอลชุด (Parlay / Accumulator)
- ลักษณะ: การรวมหลายๆ การเดิมพันในบิลเดียว หากทายถูกทั้งหมดจะได้รับเงินรางวัลตามอัตราจ่ายรวมของแต่ละคู่
- ความเสี่ยง:
- ความเสี่ยงสูง เพราะถ้าผิดแม้แต่คู่เดียวจะเสียทั้งหมด
- อัตราจ่ายสูง แต่การเลือกหลายคู่ทำให้โอกาสผิดมากขึ้น
- มีการเลือกทีมที่มีโอกาสชนะน้อยในหลายๆ คู่ เพิ่มความเสี่ยง
- เหมาะสำหรับ: นักพนันที่ต้องการกำไรสูงจากการเดิมพันในหลายๆ คู่
3.การแทงบอลแฮนดิแคป (Handicap Betting)
- ลักษณะ: การให้แต้มต่อกับทีมที่มีฟอร์มดีกว่า หรือการหักลบแต้มให้ทีมที่ด้อยกว่า
- ความเสี่ยง:
- ความเสี่ยงสูงหากไม่เข้าใจวิธีการให้แต้มต่อ เนื่องจากการทายผลแบบนี้ต้องดูทีมที่มีการให้แต้มต่ออย่างแม่นยำ
- ค่าความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหากทีมที่เป็นต่อไม่สามารถทำประตูหรือทำได้ไม่ตรงกับความคาดหมาย
- เหมาะสำหรับ: นักพนันที่ชำนาญในการวิเคราะห์ฟอร์มของทีม
4.การแทงบอลสูง/ต่ำ (Over/Under)
- ลักษณะ: การทายผลรวมของประตูในเกมว่าจะสูงหรือต่ำกว่าค่าที่กำหนด
- ความเสี่ยง:
- ความเสี่ยงต่ำกว่าการทายผลชนะ/แพ้เพราะไม่ต้องกังวลว่าใครจะชนะ แต่ต้องคาดเดารวมจำนวนประตู
- ยากที่จะคาดการณ์จำนวนประตูในบางเกมที่มีทีมที่ไม่สามารถทำประตูได้มาก
- เหมาะสำหรับ: นักพนันที่มีความเข้าใจในสถิติการทำประตูของทีม
5.การแทงบอล 1×2 (1×2 Betting)
- ลักษณะ: การทายผลว่าทีมเจ้าบ้าน (1), ทีมเยือน (2) หรือเสมอ (X)
- ความเสี่ยง:
- ความเสี่ยงปานกลาง ขึ้นอยู่กับฟอร์มและสถิติของทั้งสองทีม
- ทีมที่เป็นต่อมักจะมีโอกาสชนะสูงกว่า แต่ค่าตอบแทนอาจไม่มากนัก
- การทายเสมอมีความเสี่ยงสูง เพราะเสมอในเกมฟุตบอลค่อนข้างน้อย
- เหมาะสำหรับ: นักพนันที่ต้องการความเรียบง่ายในการทายผล
6.การแทงแบบเดิมพันคู่คี่ (Odd/Even)
- ลักษณะ: การทายผลจำนวนประตูรวมว่าจะเป็นเลขคู่หรือเลขคี่
- ความเสี่ยง:
- ความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ เพราะการทายคู่หรือคี่ไม่ต้องพึ่งพาผลการแข่งขันโดยตรง
- แต่การทายประตูรวมคี่/คู่ในบางเกมอาจคาดเดายากหากทั้งสองทีมทำประตูได้ไม่มาก
- เหมาะสำหรับ: นักพนันที่ต้องการความหลากหลายและไม่ต้องการทายผลทีมที่ชนะ
7.การแทงแบบทายผลครึ่งแรก/ครึ่งหลัง (Half Time/Full Time)
- ลักษณะ: การทายผลการแข่งขันในครึ่งแรกและครึ่งหลัง (เช่น ทีม A ชนะครึ่งแรก, ทีม B ชนะครึ่งหลัง)
- ความเสี่ยง:
- ความเสี่ยงสูง เนื่องจากต้องทายผลการแข่งขันในทั้งสองครึ่ง
- จำเป็นต้องคาดเดาฟอร์มการเล่นของทีมในแต่ละครึ่งให้ดี
- เหมาะสำหรับ: นักพนันที่มีข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบการเล่นของทีมในครึ่งแรกและครึ่งหลัง
8.การแทงบอลแบบสด (Live Betting)
- ลักษณะ: การเดิมพันขณะเกมกำลังดำเนินการ
- ความเสี่ยง:
- ความเสี่ยงสูง เพราะต้องตัดสินใจเดิมพันอย่างรวดเร็วและอาจมีการเปลี่ยนแปลงของผลการแข่งขัน
- การติดตามการแข่งขันแบบสดทำให้มีแรงกดดันและอาจทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาด
- เหมาะสำหรับ: นักพนันที่มีความเร็วในการวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจเร็ว
9.การแทงแบบบอลเต็ง
- ลักษณะ: การเดิมพันผลการแข่งขันล่วงหน้าก่อนเริ่มการแข่งขัน (เช่น ทีมไหนจะเป็นแชมป์ลีก)
- ความเสี่ยง:
- ความเสี่ยงสูง เนื่องจากผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ในระหว่างฤดูกาล
- ต้องการการวิเคราะห์ฟอร์มและความคาดหวังในระยะยาว
เหมาะสำหรับ: นักพนันที่มีการวิเคราะห์ลึกซึ้งและทำนายอนาคตได้แม่นยำ
สรุป
- ความเสี่ยงสูง: แทงบอลชุด, แฮนดิแคป, ทายผลครึ่งแรก/ครึ่งหลัง, การแทงสด
- ความเสี่ยงปานกลาง: การแทงบอลเดี่ยว, สูง/ต่ำ, 1×2
- ความเสี่ยงต่ำ: คู่คี่, บอลเต็ง